นายวายร้ายกับยัยกุลสตรี (ตรงไหน) ..(ตอนจบ)
.
By : PangJung

ที่โต๊ะของฉันมีกระดาษโน้ต กับดอกกุหลาบสีขาววางอยู่ 

 "ของใคร !!"   เพื่อนๆพูดขึ้นมาพร้อมกัน  

 "ก็ของฉันไง"  พอฉันพูดจบเพื่อนๆก็มองฉันอย่างกับเห็นสิ่งมหัศจรรย์ล้ำค่าอย่างไงอย่างงั้น  หุหุ

"ฉันรู้แล้ว   แต่หมายถึงคนที่ให้เธอน่ะ   ใคร"  

"จะไปรู้เหรอก็เรามาพร้อมกันนี่" 

"ฉันรู้แล้ว   ว่าใครให้เธอ" ยัยตาพูดอย่างกระตือรือร้น พลางชี้นิ้วไปที่กระดาน   ซึ่งมีข้อความเขียนว่า...........เต้  Love   เพลง

แค่นั้นยังไม่พอ   เจ้าคนเขียนยังยืนรอให้เพื่อนๆหันมาสนใจแบบไม่อายใคร   พร้อมกับโบกมือไปมา  ส่วนฉัน  เหอะๆ อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วค่ะ

ฉันตัดสินใจไปลากเจ้าคนสร้างเรื่องจนทำให้ฉันขายหน้ามาคุยกันให้รู้เรื่อง

 "นายจะแกล้งฉันรึไง ไอ้เต้" ฉันตะคอกแบบไม่สนใจภาพพจน์ของกุลสตรี 

 "ฉันไม่ได้แกล้ง แต่ฉันชอบเธอจริงๆ นะเพลง   ถ้าไม่เชื่อให้ฉันสาบานก็ได้ เอ้า"   

"นายจีบฉันไม่ติดหรอกนะ จะบอกให้" 

"ก็คอยดูฝีมือเต้ สิครับ"  นายนั่นพูด  แล้วทำหน้าตาแบบมั่นใจในตัวเองสุดๆ  

แม้แต่ฉันยังรู้สึกเสียวๆ   จึงรีบเดินหนีออกมา   เพราะรู้สึกถึงรังสีชั่วร้ายจากตัวนายนั่น  

หลังจากวันนั้นเพื่อนๆ ก็จะพูดกันแต่เรื่องที่นายเต้มาจีบฉัน   และที่สำคัญฉันได้รับกุหลาบขาวกับบทกลอนทุกวันเลยค่ะ     แหม !  ได้รับลูกตื้อทุกวันอย่างนี้  ใครจะใจแข็งได้ล่ะค่ะ    แต่ฉันก็ยังรักษาความเป็นกุลสตรีอยู่

"อิจฉาจริงๆเล้ย   คนกำลังมีความรักเนี้ย" ยัยตาพูดยอกฉัน 

"ใคร  ใครมีความรัก  ไม่มี ฉันรู้สึกเฉยๆโดนจีบจนชินแล้ว" ฉันแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ  ดูก็รู้ว่ายัยตาไม่เชื่อ            "จริงอ่ะ  ไม่เชื่อหรอก"

 "จริงดิ  เป็นเพื่อนภาษาอะไรไม่เชื่อเพื่อน"  ฉันพูดแบบงอนๆ 

"เชื่อสิ  ขอโทษนะ  งั้น เดี๋ยวเลี้ยงข้าวมื้อนี้ก็ได้  ป่ะไปกินข้าวกัน" พอยัยตาเสนออย่างนั้น  มีหรือเพื่อนที่แสนดีอย่างฉันจะทำให้เพื่อนเสียน้ำใจ

"ไม่ไปหรอ" 

"ไปดิ  โห่รอแป๊บเดียวก็ไม่ได้"  แล้วเราสองคนก็ลงไปทานอาหารกัน  ยัยตาเลี้ยงทั้งข้าว   น้ำ  แล้วก็ขนมเลย  แปลกจริงๆยัยนี่งกจะตาย  แต่กลับยอมเลี้ยงฉัน   รู้สึกเป็นบุญมากจริงๆเลย  

แล้วยัยตาก็ชวนฉันไปเดินเล่น  เพื่อเป็นการย่อยอาหาร   แต่ทันใดนั้น   โครม!!

 "เพลง   เธอเป็นอะไรรึเปล่านะ" ยัยตาถามฉันอย่างเป็นห่วง   ที่จู่ๆรถเข็นใส่ลูกบอลก็วิ่งมาทางฉัน 

"ฉัน ไม่เป็นไร" จะเป็นไรได้ไง  ก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนี่ 

"นาย  นี่นายเป็นอะไรไหม"

"ไม่เป็นไรครับ" แต่เมื่อพระเอกของฉันหันมาก็  อึ้ง ซิค่ะ

 "ไอ้....เต้"  ฉันกับยัยตาพูดออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย  

"ที่แท้   พระเอกขี่ม้าขาวของยัยเพลง  ก็คือไอ้เต้นี่เอง"   ยัยตาพูดแบบขำๆ  แล้วก็เดินหนีไปหน้าตาเฉย   บอกแค่ว่าจะไปซื้อขนมมาเลี้ยงพระเอก   ทำให้ฉันต้องอยู่รับมือนายวายร้ายคนเดียว 

"โอ๊ย! เจ็บตรงนี้มากเลย  เพลง  ช่วยทายาให้หน่อยสิ   ตรงนี้ด้วย   ตรงนั้นก็เจ็บด้วยอ่ะเพลง"

"เจ็บก็อยู่เฉยๆสิ   อยู่ดีๆก็อยากเป็นพระเอก   ไม่รู้จะเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย" 

"เป็นห่วงฉันมากเลยหรอ  เพลง"

 "เออ   ก็เป็นห่วงนะซิ ถามได้" 

"เฮ้ยๆ  รีบดึงไอ้เต้มันไว้เร็วๆ  มันลอยแล้ว"  เสียงเพื่อนๆ ของนายเต้ตะโกนมา   ดูท่านายนั่นจะอินมากไปหน่อย   ทำให้เพื่อนๆที่เห็นเริ่มแซว

"ก็คนมันมีความสุขนี่หว่า   เพื่อนๆอย่าอิจฉาเลยนะ" นายเต้ได้ทียอกเพื่อนกลับ   พร้อมกับหัวเราะแบบไม่อายใคร โดยที่ไม่สนใจคนที่นั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่ข้างๆเลย    ทำไมนายมันหน้าด้านนักนะ

 "เป็นห่วงนะเข้าใจความหมายไหม  เป็นห่วงไม่ได้แปลว่ารัก ทำใจยอมรับความจริงบ้างนะเพื่อน" ฉันจึงพูดขึ้นบ้างก่อนที่นายนั่นจะกลายเป็นลูกโป่งสวรรค์  ลอยไปหาคนอื่น  เสียดายแย่ หุหุ

เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน    ทุกคนก็นั่งประจำที่ของคนอื่นเรียบร้อย   โดยฉันต้องระเห็จตัวเองมานั่งข้างๆนายเต้    เพื่อนๆนี่ช่างเลือกที่นั่งกันดีซะจริงๆ 

"นายเต้ ไปทำอะไรมานะ   เยินเชียว"   เสียงของอาจารย์ถาม  ด้วยความเป็นห่วงหน้าหล่อๆของลูกศิษย์สุดที่รัก 

"ผมเป็นพระเอกไปช่วยนางเอกมาครับ  แบบในหนังไงครับ  ก็ผมเกิดมาเพื่อปกป้องคุณนี่ครับ"  สงสัยแค่พูดคงจะไม่เหมือนจริง นายนั่นเลยต้องหันมาทางฉันด้วย   ทำให้เพื่อนๆฮากันทั้งห้องเลย    แล้วยังงี้จะมีใครกล้ามาจีบฉันไหมล่ะเนี้ย

ขณะที่ฉันกำลังจะออกจากห้อง   ยัยปลาก็รีบวิ่งมา  "เพลง วันนี้วันเกิดเธอใช่ไหม  เดี๋ยวฉันกับเพื่อนๆจะจัดงานให้นะ  แต่งตัวสวยๆล่ะ  จะไปรับ"  ยัยปลาพูดแล้วก็รีบวิ่งไป

ฉันคิดว่าเพื่อนๆจะรีบวันเกิดฉันซะแล้วนะเนี่ย   ไม่นานยัยตาก็มารับ  

"เธอแต่งอย่างนี้ก็สวยดีนะเพลง   สวยหวานตามแบบฉบับกุลสตรี"

"หรอ   ฉันก็ว่างั้น  ก็ฉันได้ตำแหน่งเป็นถึงนักเรียนตัวอย่างของนักเรียนหญิงทั้งโรงเรียนนี่นา" ฉันพูดแล้วก็หัวเราะ    เพราะว่าฉันน่ะ เรียบร้อยเป็นกุลสตรีเฉพาะอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่เท่านั้นล่ะ   ฉันกับยัยตาคุยกันมาเรื่อย จนถึงงานที่เพื่อนจัดให้   เป็นงานเล็กๆแต่ก็น่ารักดี

พอฉันเดินเข้าไปในงาน  ก็มีสุนัขตัวโตมากวิ่งมาทางฉัน   และ  o_o!!!~~โอ้  ไม่นะ   ยะ  อย่า    อย่ายื่นมาใกล้ขนาดนั้นสิฉันตกใจหมด    ใครเนี่ยที่คิดวิธีให้ของขวัญโดยการให้หมาคาบกระเช้ายื่นมาให้ฉัน   เฮ้อ ....อออ!!!  ตกใจหมดเลย   นึกว่าจะโดนหมากินซะแล้ว  ภายในกระเช้ามีกล่องของขวัญ   เมื่อหยิบขึ้นมาดูจึงรู้ว่าเป็นของนายเต้     พอเงยหน้าขึ้นมาก็ จ๊ะเอ๋ ! กับเจ้าของกล่องของขวัญพอดี    ~ทุกอย่างลงตัวเป๊ะ~  นายนั่นต้องคิดอย่างงี้แน่ๆ

"ไว้เปิดทีหลังนะ ของขวัญน่ะ  ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า" ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้ แหะๆ  อายมั่กมากค่ะ

"อือ  ไปสิ"  เอ๊ะ! ทำไมวันนี้นายถึงได้พูดง่ายจังนะ   แถมยังดูหล่อเป็นพิเศษกว่าทุกวันด้วยนะ  มิน่าล่ะ  สาวๆที่โรงเรียนถึงได้ชอบกัน  ดีใจจังที่คนหล่อมาหลงเสน่ห์   หุหุ

เพื่อนๆต่างก็นำของขวัญมาให้ฉัน   ทุกๆคนต่างก็อวยพรวันเกิดให้ฉันด้วย

"นี่ยัยเพลง   อย่าลืมอธิฐานนะ" แหม !เสียงอย่างนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

"อธิฐานอะไรอีกล่ะ  ยัยตา"

"ยัยโง่    ก็อธิฐานตอนเป่าเทียนวันเกิดไงเล่า" อะ อ่าว ก็คนมันลืมนี่หว่า  ทำไมต้องว่าด้วยเล่า

"อ๋อ   ฉันรู้หรอกน่า"   แหะๆ

 "แล้วเธอจะอธิฐานอะไรอ่ะ" เฮอะ ! ที่แท้ก็มาล้วงความลับนี่หว่า  จ้างให้ก็ไม่บอก

"ถ้าบอกเธอก็ไม่ขลังนะสิ" หุหุ 

"ให้สิบบาทเลย บอกมา" นี่เธอเห็นฉันเป็นคนเห็นแก่เงินหรอเนี่ย

"ห้าสิบ เลยเอ้า" ก็บอกแล้วว่าจ้างให้ก็ไม่บอก

"ร้อยหนึ่งขาดตัว ไม่เอาก็อดแล้วนะค่ะ" พูดซะเพราะ แต่น้ำเสียงนี่ หึหึ น่ากลัวเป็นบ้า

"เงินร้อยมาเมื่อไหร่ บอกเมื่อนั้น" เป็นไงล่ะ ฉลาดไหม  (ไหนบอกว่าจ้างให้ก็ไม่บอกไง)

"จริงๆนะ เพลง  เย้"ตกลงเธอเต็มไหมเนี่ย จะเสียตังค์แท้ๆยังจะดีใจอีก  คนเต็มๆอย่างฉันมาครบเธอเป็นเพื่อนได้ไงเนี่ย  งงตัวเอง 

แต่ก่อนที่ฉันจะคิดออกว่าระหว่างฉันกับยัยตาใครต๊องกว่ากัน   ไฟในงานก็ดับลง   พร้อมกับเสียงร้องเพลง  Happy Birthday   ก็ดังขึ้น  ฉันเห็นไฟจากเทียนวันเกิดลอยมา  เพราะมันมืดทำให้มองไม่เห็นคนถือเค้กเท่าไหร่นัก 

"สุขสันต์วันเกิดนะเพลง"เสียงคุ้นๆแบบนี้ ทำให้ฉันยิ่งมั่นใจ ว่าคนถือเค้กจะต้องเป็นนายเต้แน่ๆ

"เอ้า! อธิฐานแล้วก็เป่าเทียนได้แล้ว มัวแต่มองไอ้เต้อยู่นั่นแหละ" เอ๊ะ! ยัยต๊องนี่ ชอบขัดจังหวะจริงๆเลย  หุหุ อายนะเนี่ย 

ด้วยความเขินฉันจึงรีบก้มหน้าลงอธิฐาน แล้วก็เป่าเทียน    แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย  แต่เป็นความผิดของนายเต้ต่างหาก  ที่หน้าตาดีเกินพิกัด  ฮิฮิ  เก่งอีกแล้วเราโยนความผิดให้คนอื่นได้

"สุขสันต์วันเกิดนะเพลง"  จ๊ะ    แต่เดี๋ยวก่อนนะ  เมื่อตะกี๊พวกเธอล้อฉันหรอเนี่ย   กล้าล้อคนสวยได้ยังไงกัน 

สงสัยว่านายเต้จะเพิ่งรู้ว่าฉันก็มีต่อมอายเหมือนกัน  จึงดึงมือฉันเดินออกมานอกงาน  แต่รู้สึกว่าจะยิ่งทำให้ฉันอายนะ  นี่นายไม่รู้วิธีทำให้หายอายวิธีอื่นหรือไงเนี่ย

เอ๊ะ! เดี๋ยวๆนี่ฉันออกมานอกงานกับนายสองต่อสองหรอเนี่ย   กรี๊ดๆ โอกาสดีๆมีน้อย   แต่ว่ากุลสตรีอย่างฉันเนี่ยต้องเสียภาพพจน์แน่ๆเลย  ฮือๆ   แต่ฉันก็ยอมตามออกมา  แหะๆ 

 

"เพลงฉันชอบเธอนะ   เรามาเป็นแฟนกันดีไหม

-_-;  ฉันไม่ได้พูดอะไร(เพราะอายจนพูดไม่ออก)  นายนั่นเลยพูดต่อ

"ฉันมีความรู้สึกดีๆกับเธอนะ"

"บางทีนายอาจจะไม่ได้คิดกับฉันแบบแฟนก็ได้"

แต่ฉันคิดไปแล้ว  หุหุ  เร็วจริงๆเลยเรา

"เพลง  ถ้าเธอเชื่อใจฉัน  ฉันจะรักเธอเพียงคนเดียว"

"..." เงียบ[

"ตลอดไป"

พูดงี้  ฉันก็ อิน อ่ะดิ

"ฉันจะเชื่อนาย" ฉันเชื่อเพราะสายตาของนายมันบอกว่านายจริงจัง  ไม่ได้แค่ต้องการเล่นสนุก

"งั้นเราเป็นแฟนกันนะ"

"อืม  เราเป็นแฟนกันแล้วนะ"

"เฮ้.......ฮฮฮฮฮ" 

ตุ๊บ  ตุ๊บๆๆๆๆๆ      โครม!!!

เฮอะๆ  ไม่ต้องตกใจเพราะเสียงทั้งหลายทั้งปวง  เป็นเสียงของเพื่อนๆที่ฉันนึกว่าอยู่ในงาน   แต่ตอนนี้กระจ่างแล้วว่าทุกคน  ขอย้ำนะค่ะว่าทุกคน -_- กลายร่างเป็นปาปารัสซี่หรือหมาคลุกขี้โคลนก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังเกือกกลิ้งอยู่บนพื้น

"เฮ้ย!!  มาได้ไงว่ะ" นี่เป็นเสียงนายเต้

"ซวยแล้วไหมล่ะ ...ฉัน"ถ้าคิดว่าเป็นเสียงของเพื่อนๆที่สำนึกผิด  ก็ต้องขอบอกว่าคุณคิดผิดค่ะ  เพราะว่ามันเป็นเสียงของฉันเองแหละค่ะ

"ว้าว!!  ฉันจะโพสรูปยัยเพลงกับไอ้เต้ลงเน็ต  แล้วก็แปะบอร์ดประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนด้วย  หุหุ  ได้เป็นข่าวดังแน่ๆ" ดูมันทำ  ยัยเพื่อนนิสัยไม่ดีทั้งหลาย  คอยดูเถอะฉันจะทำมั่ง 

 

ที่โรงเรียน

ฉันไปโรงเรียนตามปกติ  ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าโรงเรียนก็มีแต่คนมองฉัน  ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติอีกเช่นกัน  เพราะว่าฉันเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ได้ตำแหน่ง  2  ตำแหน่งซ้อน  >o<  คือนักเรียนตัวอย่างในด้านความประพฤติ  และยังได้รับผลโวลต์ให้เป็นผู้หญิงที่หนุ่มๆอยากได้เป็นแฟนมากที่สุดด้วย   แต่รู้สึกว่าจะมีอะไรแปลกๆอยู่นะ   เฮ้อ! ช่างมันเถอะ...

ฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะประจำ  พวกเพื่อนๆตัวแสบของฉันก็มาโรงเรียนกันหมดแล้ว

กำลังปรึกษาอะไรกันนะ  อยากรู้ๆ  (โรคสอดรู้สอดเห็นกำเริบ)

"อาทิตย์หน้าโรงเรียนเราจะพาไปเที่ยวทะเลด้วยนะ"

"เธอรู้ได้ไงอ่ะ  พิม" เสียงยัยตาถาม  ไม่เห็นยากเลย  ตาเธอลืมไปแล้วหรอยัยพิมน่ะ  นักข่าวประจำห้องเรานะ

"ดีจัง  เราจะได้ไปเที่ยวกันแล้ว"  เพื่อนกลุ่มฉันสามคน  คุยกันโดยไม่มีใครสนใจฉันเลย

ง่ะ  =_=   ฉันกลายเป็นส่วนเกินหรอเนี่ย

"นี่  พวกเธอสามคนไม่คิดจะทักเพื่อนกันเลยรึไง" ฉันนั่งรอมานานแระ  ขี้เกียจรอต่อแล้วนะ

"อ้าวเพลง  มาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ"  นานแล้วยะ

"พอดีเรากำลังคุยกันเรื่องที่โรงเรียนจะพาไปเที่ยวน่ะ"แล้วก็นานพอ  จนรู้ว่าพวกเธอคุยเรื่องอะไรกันด้วย  เฮ้อ  เซ็งเพื่อนตัวเองจริงๆ

"เพลง   มาแล้วหรอดีจัง"  ถ้าไม่มาแล้วเธอจะเห็นฉันหรอยะ

"พี่ค่ะ  พี่ชื่อเพลงใช่ป่ะ" ก็เออดิ  อยู่ๆก็มีเด็กที่ไหนไม่รู้มาถามฉัน  ฉันกำลังเคลียร์กับเพื่อนๆอยู่นะ

"อ๋อใช่  น้องมีไรกับพี่หรอ"  รักษาภาพพจน์ไว้

"ฉันแค่จะบอกพี่ว่า ฉันชอบพี่เต้  แล้วก็ไม่อยากให้พี่ยุ่งกับพี่เต้อีก  ถึงแม้พี่เต้เขาจะชอบพี่ก็เหอะ  แค่นั้นแหละ"  เหอะเหอะ   เด็กม.ต้นสมัยนี้นี่สุดยอดจริงๆเลย  ผู้ชายไม่ชอบ  เสือกบอกให้แฟนเขาเลิกยุ่ง  เป็นอะไรที่หายางไม่เจอ(ไร้ยางอาย ^O^ ) 

"พี่คงทำไม่ได้หรอก  เพราะว่าพี่เต้ของน้องเป็นคนมายุ่งกับพี่เอง  รึว่าน้องจะให้พี่บอกเต้ว่า  น้องห้ามพี่ยุ่งกับเขาก็ได้นะ" 

"มะ ไม่เป็นไรค่ะ  แต่ฉันไม่ได้ยอมแพ้พี่หรอกนะค่ะ  แล้วเจอกันอีกค่ะ"  ฉันรู้ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้  เพราะถ้าฉันบอกนายเต้  นายนั่นต้องโกรธเด็กนี่แน่(ถ้าสองคนนั่นไม่ใช่แฟนกันอ่ะนะ)

"จ้ะ  แล้วเจอกันนะ"  ฉันยิ้มให้  แล้วน้องคนนั้นก็รีบเดินกลับไปหาเพื่อนๆ

"หน้าไม่มียางเลยอ่ะ  ทำได้ไงเนี่ย" 

"เออนั่นดิ  กล้าเกินไปแล้วเนาะ"

"ไม่เกรงใจรุ่นพี่บ้างเลยอ่ะ  รุมเลยดีป่ะ"

"เว่อร์ไปแล้ว  มันแค่เรื่องแบบเด็กๆเอง  อย่าสนใจเลย"  เอาอีกแล้วเพื่อนฉัน 

พอยัยเด็กนั่นไป   ยัยตา  ปลา  แล้วก็พิม  ก็เริมต้นการเมาท์เรื่องเมื่อกี๊ทันที  แล้วก็ไม่สนใจฉันอีกแระ  ทั้งๆที่เรื่องเมื่อกี๊เป็นเรื่องของฉัน  แต่ไม่มีใครคิดจะถามความคิดเห็นฉันบ้างรึไงฟะ

วันไปเที่ยว

วันนี้อากาศดีมาก  ฉันมาถึงโรงเรียนเห็นทุกคนกำลังเตรียมตัว  ดูแล้วครึกครื้นดี  มีพวกเด็กรุ่นน้องไปด้วย  รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยแฮะ

"นักเรียนมาขึ้นรถได้แล้วนะ  เดี๋ยวมันจะสายนะ"  เสียงอาจารย์เรียกพวกเราขึ้นรถ

"ตา  ฉันนั่งกับเธอนะ" ฉันนั่งลงข้างๆยัยตา  ส่วนยัยพิมกับปลานั่งอยู่ข้างหน้าเรา

"อืมนั่งดิ  แต่ทำไมไม่ไปนั่งกับไอ้เต้ล่ะ"  ถามดีนะเพื่อน

"เธอไม่อยากให้ฉันนั่งด้วยรึไง"  กลบเกลื่อนความอาย

"เปล่าหรอ  เมื่อกี๊ฉันเห็นเด็กคนที่มาหาเธอเมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะ  กำลังพยายามจะนั่งกับไอ้เต้อยู่  ก็ที่ข้างๆมันว่างนี่นา"  ว่าไงนะ  แล้วอีตานั่นปล่อยให้ว่างทำไมเนี่ย

"ยอมไม่ได้นะเพลง  เธอต้องไปนั่งตรงนั้นนะ  ไปเลยไป"  แหม  พูดเหมือนไล่เลยนะเพื่อน

"เอ้า  ไปซิเพลง"  ตกลงพวกเธอไล่ฉันจริงๆใช่ป่ะเนี่ย  เพราะพวกนั้นดันฉันมาจนถึงที่ที่นายเต้นั่งอยู่แล้ว

และที่สำคัญนะฉันเห็นเด็กผู้หญิง  กำลังขอนั่งข้างๆนายนั่นอยู่ด้วยล่ะ

"พี่เต้ไห้โบนัสนั่งด้วยเถอะนะค่ะ"

"เอ่อ  คือตรงนี้มีคนนั่งแล้วนะน้อง  พี่ว่าน้องโบนัสไปนั่งที่อื่นเถอะ  ที่ยังเหลืออีกตั้งเยอะ"  นายเต้พยายามขับไล่  เอ้ย  บอกให้น้องเขาไปนั่งที่อื่น

"แต่ว่านัสอยากนั่งข้างๆพี่นี่ค่ะ"  ด้านจริงๆ  อุตส่าห์ไล่อย่างสุภาพแล้วยังไม่ไปอีก

"เฮ้ย !!!   ไอ้เต้"  ยัยตาตะโกนเรียก  ทำให้สองคนนั้นหันมามอง  

พอนายเต้เห็นฉัน  นายนั่นก็ยิ้มทันที  ผิดกับอีกคน  ชื่ออะไร  นัส นัส  นี่แหละ  หน้าบึ้งม๊าก มาก

"อ้าว เพลงมาแล้วหรอ  เค้ารอเพลงตั้งนานน่ะ  มาช้าจัง  นั่งซิ" นายนี่เปลี่ยนสรรพนามได้ไวจริงๆเลยนะ  แต่ก็โอเคอ่ะนะ 

ฉันนั่งลงข้างๆนายเต้  แล้วก็หันไปยิ้มให้เด็กที่ชื่อ นัส(เขาชื่อโบนัส) ในความคิดของน้องนัส  อาจจะคิดว่าฉันแยกเขี้ยวใส่ก็ได้นะ

"เจอกันอีกแล้วนะจ้ะน้อง  ชื่ออะไรนะ  นัสหรอ"

"โบนัสคะ  งั้นนัสนั่งเบาะข้างหลังพี่นะค่ะ  พี่เต้"  ทีตอบฉันล่ะหน้างี้บึ้งเชียว  แต่พอพูดกับอีกคนนะ  ยิ้มซะโอเว่อร์เลยนะยะ

"อ่าครับ เชิญไปนั่งเลยครับ"  เหมือนไล่เลยแฮะ

"ดีใจจัง  ที่เพลงมานั่งกับเค้า  คิดว่าจะไม่มาซะแล้ว"  เกือบจะตอบว่าก็ไม่ได้อยากมานั่งเท่าไหร่หรอกตรงเนี่ย   พูดงั้นไม่ได้น๊า  ยัยโบนัสนั่งอยู่ข้างหลัง  ต้องรักกัน รักกัน รักกันไว้เถิด  เราเกิดเป็นแฟนกัน  แหะแหะ

"พี่เต้ค่ะ  หิวป่ะค่ะ  นัสมีขนมพี่เต้มากินขนมกับนัสไหมค่ะ" ยัยเด็กนี่นิ ตื้อไม่เลิกเลยนะ

"ไม่เป็นไรครับ  ของพี่ก็มี  อ่ะเพลงกินป่ะ" ทำตัวน่ารักมากเลยแฟนฉัน

"กินสิ  อ่ะเดี๋ยวฉันป้อนนายเองนะ" หุหุ  อย่าเพิ่งกรี๊ดนะจ๊ะน้องโบนัส

"ขอบคุณนะเพลง  เค้ารักเพลงที่สุดเลย"  นี่ก็หวานขึ้นเรื่อยๆเลยนะ  ไม่คิดว่าฉันจะเขินบ้างรึไงนะ

"ส่วนนายก็น่ารักมากเลยนะ"

"จริงๆหรอเพลง"

"รับรองด้วยเกียรติของกุลสตรีที่ชื่อเพลง"

"ฟังดูน้ำเน่าจังคะ  ปัญญาอ่อนด้วย"  ยัยเด็กน้อยชอบหาเรื่องนี่ยังไม่เลิกรังควาญฉันอีกแหะ

"ก็แล้วแต่น้องจะคิดอ่ะนะ  พี่ก็ไม่ได้สนใจความคิดเห็นของเด็กน้อยที่ตามตื้อแฟนคนอื่นเขาหรอกนะ"

"ใช่ แล้วนี่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของพี่กับเพลงนะ  น้องโบนัสไม่จำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นหรอก"  นายเต้พูดซะเด็กนั่นเงียบไปเลย  คงจะรู้สึกเสียหน้าล่ะซิ

"เพลง  เค้าง่วงแล้วอ่ะ" 

"นายง่วงก็นอนซิมาบอกฉันทำไม"  อีตานี่  แปลกแหะง่วงนอนก็บอก

"งั้นเค้า  เอนพิงเพลงนะ"  คิดได้ไงอ่ะ

"จะบ้าหรอ  ผู้ชายที่ไหนพิงผู้หญิง  มีแต่ผู้หญิงที่พิงผู้ชายต่างหากเล่า" 

"ถ้างั้นเพลงก็พิงเค้าซิ  อ่ะพิงเลย"  อยากจะบ้าตาย

"เร็วซิเพลง  เค้ารอให้เพลงพิงอยู่นะ"  เฮ้อ!! ไม่เข้าใจแฟนฉันมันจะเป็นพวกขี้อ้อน  หรือว่าจอมเผด็จการว่ะเนี่ย

"นายไม่กลัวเมื่อยหรอ  มันอีกนานเลยนะกว่าจะถึงอ่ะ" ฉันพูดเพราะความเป็นห่วงจากใจเลยนะเนี่ย

"ไม่หรอกน่า  ถ้าเป็นเพลง  เค้าทนได้"  ตลกใหญ่แระ 

ฉันเลยเอนหัวลงไปพิงนายเต้  อยู่อย่างนี้อุ่นจังเลยแฮะ  สบายดีด้วย  ฉันพึ่งรู้นะเนี่ยว่าการมีแฟนมันดีอย่างเงี่ย  เพราะฉันเห็นคู่รักคู่อื่นๆ  ผู้ชายมักจะชอบไปมีกิ๊กมีกั๊กไปทั่ว  บ้างครั้งก็ปล่อยให้แฟนรอเก้อ   ทำให้แฟนเสียใจ  หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงเองที่บริหารเสน่ห์ไปทั่ว

สำหรับฉัน  ผู้ชายคนนี้น่ารักมากเลย  ถึงฉันจะไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า ‘รัก' แต่ฉันมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองว่าฉันน่ะ  ชอบนายมั่ก มากแล้วล่ะ  เหลือแค่นายทำให้ฉันมั่นใจว่านายจริงจัง  แล้วก็จริงใจกับฉันจริงๆเท่านั้นเอง

"เย้!!!!  ถึงซะที ทะเลที่นี่สวยจังเลย  เพลงไปเล่นน้ำกันมั้ย"

"นายไปเถอะ  ฉันขอเอาของไปเก็บก่อน" เพราะว่าฉันมีความรับผิดชอบย่ะ

"เสร็จแล้วรีบตามมานะเพลง  รออยู่  อย่าทำให้เค้าคิดถึงนานๆล่ะ  ไม่งั้นจะ..."

"จะอะไร  พูดให้จบนะ  ไม่งั้นมีเรื่องแน่"  ฉันของขึ้นแล้วนะ  ได้เจอดีแน่ถ้าพูดว่าจะขอเลิกน่ะ(รักนะแต่แสดงออกไม่เก่ง)

"ก็จะ..รักเพลงให้มากกว่านี้ไง" 

"อีตาบ้า  ตายซะเถอะ"  เปลี่ยนเป้าหมายด่วน  จากที่จะเอาของไปเก็บเป็นไล่เตะคนแทน  พูดอะไรออกมาเนี่ย  ไม่รู้จักอายบ้างเลย

"อะไรอ่ะเพลง  พูดแค่นี้ก็ต้องเขินด้วย  น่ารักจัง"  ยังๆ ยังไม่เลิกพูดอะไรเลี่ยนๆอีก

"ฉันไม่ได้เขินซะหน่อย  นายคิดไปเองต่างหาก"

"แต่ว่าหน้าเพลง  แดงมากๆเลยนะ  โกหกไม่ดีนะ" 

"หน้าฉันแดงหรอเนี่ย  จริงๆหรอ นายอย่าโกหกนะ"  แล้วมันจะน่าเกลียดไหมเนี่ย  ฮึ้ย!!  เป็นเพราะนายคนเดียวเลย  ชอบพูดอะไรที่มันทำให้ฉันเขิน  อายชะมัด

"จริงดิ  น่ารักดี  โชคดีจังที่ได้เป็นแฟนของเพลง"  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแต่ละคำที่อีตานี่พูด  มันถึงทำให้ฉันเขินได้ขนาดนี้  ถ้าฉันต้องเจอนายบ่อยๆ  หน้าฉันอาจจะเปลี่ยนเป็นสีแดงไปเลยก็ได้นะเนี่ย

"เดี๋ยวฉันเอาของไปเก็บดีกว่า  ไม่น่ามาทำตัวไร้สาระกับนายเลย"  หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า  ก็ฉันไม่ชอบให้หน้าตัวเองแดงนี่นา  มันอายอ่ะทำไงได้

ฉันรีบหนีออกมา  เอาของไปเก็บแล้วไปหาเพื่อนๆดีกว่า

"เพลง  ไปทำไรมาอ่ะ  หน้าแดงมากเลย" อย่าพึ่งถามได้ป่ะ  พิม

"แล้วไอ้ตา กับปลา มันไปไหนล่ะ" เปลี่ยนเรื่องซะเลย

"ไม่รู้เหมือนกัน  ฉันก็กำลังหาพวกนั้นอยู่"

"งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วยดิ  ขอเก็บของก่อนนะ"

"ไอ้เพลงช่วยเก็บของให้มันเร็วๆหน่อยได้ป่ะ"

"เธอจะรีบไปทัวร์นรกรึไง"  เร่งอยู่นั่นแหละ

"ก็ฉันขี้เกียจรอนี่หว่า  มันเซ็งอ่ะ" 

"เหอะ  รอนิดรอหน่อยทำเป็นบ่น  อ่ะเสร็จแระ  ไปกันเถอะ"

ฉันลากยัยพิมออกมา  เพื่อนฉันนี่  ขี้บ่นชะมัด  รอยังไม่ถึงชั่วโมงเลยบ่นแล้ว  ทีฉันรอพวกเธอตั้งสองชั่วโมงยังไม่เคยบ่นเลย(นั่นเธอเรียกว่ารอหรอ  นั่งเล่นเกมส์เนี่ยนะ)

"เพลงๆๆๆๆ  เกิดเรื่องใหญ่แล้วไปดูดิ  เร็วๆๆเร็วหน่อยได้ป่ะเนี่ย" เกิดอะไรขึ้นเนี่ย  มีแต่คนเร่ง  เซ็งเลย

"อะไรของเธอเนี่ย  เฮ้ย!!!  ไอ้ตาอย่าลากฉันซิว่ะ"  คำพูดเรื่มเปลี่ยนไปตามอารมณ์

"ดูนั่นดิ  เห็นป่ะ นั่นน่ะ  เรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย"

โธ่   ก็แค่ไอ้เต้กำลังพูดคุย  and   จับมือถือแขนกับยัยโบนัสเอง

 เฮ้ย!!!  ไม่ใช่ซิ  นั่นมันแฟนเรานี่หว่า  แล้วไปจู้จี้กับผู้หญิงอื่น 

ทำไมถึงทำอย่างนี้นะ  ผู้ชายก็เจ้าชู้เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ  รวมทั้งนายด้วย  ไอ้บ้าเต้  แงๆๆๆ  อยากเตะคนมั่ก  มาก

"เฮ้ย!!  ไอ้เพลง  จะไปไหนอ่ะ" ฉันไม่ได้จะไปเตะไอ้สองคนนั้นหรอกน่า 

"ทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันนะ" ฉันเดินเข้าไปทัก

"อ้าว  เพลง  คือกำลังคุยเรื่องของเราอยู่น่ะ" เหอะ  ไม่มีแก้ตัว  บอกว่าคุยเรื่องของเราอยู่หรอ  เรื่องของเราที่ว่านี่คือเรื่องของนายกับยัยโบเน่าใช่ไหม  ไอ้บ้าเอ้ย  มันน่าเตะตกทะเลนัก

"อ๋อ  คุยเรื่องของเราหรอ  งั้นฉันไปก่อนนะ"  ก่อนที่จะได้เตะคน

"เพลง  เป็นไรรึเปล่า  เห็นตาแดงๆ" นายไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงฉันหรอก  ฉันจะไม่เสียใจ  ไม่มีทางที่ฉันจะร้องไห้เพราะผู้ชายแย่ๆเด็ดขาด

"ฉันไม่เป็นไร  ขอไปพักนะ  รู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะ"

เพราะว่ามันรู้สึกเจ็บ  เจ็บแปลกๆ  รักษาด้วยวิธีไหนก็คงไม่หายหรอก  อยากร้องไห้จัง 

นี่รึเปล่านะที่เขาเรียกว่า ‘อกหัก' น่ะ

"ไม่เป็นไรแน่นะเพลง"

ฉันขี้เกียจฟังคำพูดของอีตานี่  เลยรีบเดินหนีออกมา   เพื่อนๆฉันกำลังรออยู่ 

เพื่อนๆที่ไม่เคยหลอกลวงหรือทำให้เสียใจเลย  ถึงแม้ว่าเราจะงอนกันบ้าง  แต่ก็ไม่เคยโกรธกันจริงๆซักที 

เพื่อนจะคอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเราเสมอ  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

"เพลง  เธอเป็นไงมั้งอ่ะ"ยัยตาถามฉันอย่างเป็นห่วง

"ฉันไม่เป็นไร"ขอบใจนะเพื่อนที่เป็นห่วง

"เธอเสียใจรึเปล่าเพลง"อย่าถามอย่างนี้ได้ป่ะ เพราะฉันรับไม่ได้  

"ฉันไม่ได้เสียใจ"

"เธอไม่เสียใจจริงๆหรอเพลง"

 

กรี๊ดดด....ดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อีตาบ้า  ไอ้ผู้ชายเฮงซวย   ไอ้คนไม่จริงใจ

ทำไมต้องทำให้ฉันเสียใจด้วย  ไอ้คนนิสัยไม่ดี

ฉันไม่น่าเลยจริงๆ  ไม่น่าไปชอบคนแย่ๆแบบนี้เลย

ฉันรีบเดินกลับมาระบายอารมณ์ที่ห้องพัก   ยังมีหน้ามาถามกันอีกนะไอ้เพื่อนบ้า(จากเพื่อนรักกลายเป็นเพื่อนบ้าเพราะถามคำถามได้โดนแบบสุดๆเลย) 

ก็ลองมาโดนบ้างซิ  จะได้รู้ว่าเสียใจไหม  แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ทำไมต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นกับฉันด้วยนะ    ทำไมฉันถึงได้ซวยแบบนี้นะ   อยากกลับบ้านแล้ว

ไม่อยากจะเจอคนนิสัยเสียแบบนั้น   อย่ามาให้ฉันเห็นหน้านะ  ไอ้บ้า

ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

"เพลง  ไปเดินเล่นกันเถอะ" ไอ้บ้า 

"ไม่ไป  ฉันจะนอน  นายไปไกลๆเลยนะ"

"เพลงเป็นอะไรอ่ะ  โกรธเค้าหรอ  บอกได้ไหมว่าเรื่องอะไร" ไอ้งี่เง่า

"นายจะบ้ารึไง  มายุ่งกับฉันทำไมเนี่ย  นายก็ไปคุยเรื่องของนายกับยัยโบนัสต่อซิ  ฉันอยากอยู่คนเดียว" ฉันเปิดประตูออกมาว่าไอ้บ้าเต้  ด้วยความโกรธแบบสุดๆ

"เดี๋ยวซิเพลง  เค้าว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ" ไอ้เต้คว้ามือฉันไว้  ตอนที่ฉันกำลังจะปิดประตูใส่หน้าของเขา(มัน)  อารมณ์กำลังเดือด

"จะคุยอะไรอีกล่ะ  ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย"

"แต่เค้ามี  เค้าว่าเพลงต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ"

"มันจะผิดได้ไงล่ะ  ก็ฉันเห็นอยู่ว่านายคุยกับยัยโบนัส  พอฉันถามนายก็บอกว่าคุยเรื่องของเราอยู่  จริงไหมล่ะ"  เดือดทะลุ  100

"ใช่  เพลง เค้าคุยกับโบนัส  เค้าบอกว่าเค้ากำลังคุยเรื่องของเราอยู่  แล้วเพลงโกรธเค้าเรื่องอะไรล่ะ"

ทำไมนายมันโง่นักนะ

          "เพลงโกรธที่เค้าพูดเรื่องเพลงกับเค้าหรอ  เพลงไม่อยากให้เค้าพูดเรื่องของเรารึไง  เพลงไม่อยากให้เค้าบอกให้โบนัสอย่ามายุ่งกับเราหรอ"

                "ว่าไงนะ  เรื่องของเรานี่  คือเรื่องฉันกับนายงั้นหรอ"  อุณหภูมิลดลงมากกว่าครึ่ง

"ก็ใช่ไงเพลง  อย่าบอกนะว่าเพลงคิดว่าเค้าหมายถึง  เรื่องของเค้ากับโบนัสอ่ะ"

                "ก็ประมาณนั้น  แหะแหะ  แล้วใครจะไปรู้เล่า"  อารมณ์เข้าสู่ภาวะปกติ 

                "งั้นตอนนี้เพลงก็ไม่ได้โกรธเค้าแล้วใช่ป่ะ  งั้นเราไปเดินเล่นกันเถอะ"

"โกรธซิ  ฉันยังโกรธนายอยู่" เสียหน้ามากแก้ตัวด่วน

"เรื่องอะไรอ่ะเพลง"

"ก็เรื่องที่นายไม่ยอมพูดมันให้เคลียร์ๆ  จนฉันเข้าใจผิด  นอนร้องไห้อยู่ตั้งนานแน่ะ"

"นี่เพลง  ร้องไห้เพราะเค้าหรอเนี่ย  ขอโทษนะเพลง  ต่อไปเค้าจะไม่ทำให้เพลงเสียใจอีกแล้ว"

"นายพูดจริงๆนะ"

"จริงซิ  แต่มีข้อแม้"

"อะไรอีกล่ะ  น่าเบื่อ"

"ก็แค่เพลงเลิกแทนตัวเองว่าฉันสักที"

ง่ะ  แล้วให้พูดไงว่ะเนี่ย

"แล้วจะให้ฉันแทนตัวเองว่าอะไรอ่ะ"

"ก็แทนตัวเองว่าเค้าไง  น่ารักดีออก"

"จะบ้าหรอ  เค้าอายนะ"  อายก็พูดออกไปแล้ว

"อีกเรื่องนึงนะเพลง  เลิกเรียกเค้าว่านายเถอะ  เปลี่ยนมาเรียกว่าเต้ก็พอแล้ว   หรือจะเรียกว่าที่รักก็ได้นะ  เค้าไม่ว่าหรอ ถ้าเพลงเป็นคนเรียกน่ะ"

"โอเค  รู้แล้ว  มีไรอีกม่ะ" เริ่มเดือด  ก็บอกแล้วว่าเบื่อ

"มีซิ"

"อะไรอีกล่ะ"

"ก็เค้ารักเพลงนะ  เต้รักเพลงที่สุดเลย"

o///o

"เค้าก็รักเต้นะ  เพลงรักเต้ที่สุดเลย"

"จริงหรอ"

"แน่นอนอยู่แล้ว"

"งั้นขอกอดหน่อยได้ป่ะ"

"อย่าทะลึ่ง  เดี๋ยวโดน"

"ไม่เห็นจะทะลึ่งตรงไหนเลย  คนรักกันก็ต้องกอดกันสิ"

"ไม่เอาอ่ะ"

"นิดนึงไม่ได้หรอ"

"ไม่  ต้องรอให้เรียนจบก่อน"

"แค่กอดเนี่ยนะต้องรอให้เรียนจบก่อน นานชะมัด"

"อีกแค่เดือนเดียวนี่นะนาน"

"สำหรับเค้านะแค่วันเดียวก็นาน"

"งั้นก็ไปมีแฟนใหม่เลยไป  ถ้ามันนานเกินน่ะ"

"ไม่เอาหรอก"

"แล้วจะเอายังไง"

"ไม่เอาไงหรอก  ถ้าเป็นเพลงน่ะ  ให้รออีกปีนึง  เค้าก็รอได้"

"งั้นก็รอไปอีกปีนึงดีไหม"

"ไม่ดีเลยนะเพลง   แค่เดือนเดียวก็พอแระ"

หุหุ  ให้มันรู้ซะมั่งว่าใครเหนือกว่า  แกล้งแฟนตัวเองนี่มันสนุกจริงๆเลยเรา

จุ๊บ

O///O

"เฮ้ย!!  ทำไมถึงทำอย่างนี้เนี่ย"

"ก็มัดจำไว้ก่อนไง  อีกเดือนนึงค่อยกอด  แต่ขอหอมแก้มก่อนทีนึง  ฮิฮิ  ใครกันน้าที่เหนือกว่า"

"ไอ้ตัวร้าย  เจอดีแน่"

"เพลง  ไม่รักษาภาพพจน์กุลสตรีแล้วหรอ"

"ไม่แล้ว  แต่นาย  ตายซะเถอะ"

"ฮ่าๆๆๆ  จับให้ได้ซิเพลง"

ฉันวิ่งไล่ตีเต้  แต่เขาก็วิ่งหนีออกไปทั่วหาดเลย   ตอนเนี้ยหาดเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเราสองคนแล้วล่ะ  มีความสุขจัง

แม้ว่าเขาแฟนของฉันจะกวนโอ้ย  หรือว่าเป็นนายวายร้ายประจำโรงเรียน  แต่เขาก็ดีกับฉันเสมอ

ถึงตอนนี้ฉันก็เพิ่งรู้ว่า  ช่วงหลังๆที่ฉันเป็นจุดสนใจมากกว่าเดิม  นั่นเป็นเพราะเรื่องที่ฉัน(นักเรียนมารยาทดี)ไปคบกับเขา(นายวายร้ายประจำโรงเรียน)

มันเป็นข่าวดัง  ก็เพราะไอ้พิม  มันเอารูปตอนงานวันเกิดไปลงเว็บของโรงเรียนน่ะซิ

ก็ทุกคนคงแปลกใจที่คนสองบุคลิกที่ดูแล้วต่างกันซะขนาดนั้นจะมารักกันได้(แต่ดูแล้วนิสัยสองคนนี้จะสลับกันนะ  เวลาที่อยู่ด้วยกันน่ะ)

เขาถึงบอกว่าความรักน่ะ  ไม่มีเหตุผลหรอก  ใครๆก็สามารถมารักกันได้  มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิต

และสำหรับใครที่มีความรักอยู่แล้วล่ะก็  จงดูแลความรักนั้นไว้ดีดีเถอะ   เพราะคนนั้น  คนที่เรารักจะได้คอยเป็นกำลังใจให้เราเวลาที่เราท้อ  เหมือนกับที่ฉันจะดูแลความรักของฉันกับเต้ไว้ให้ดีที่สุด

"คิดอะไรอยู่น่ะ  เพลง"

"คิดว่าเค้ากำลังรักเต้มากๆเลยไง"

"เค้าก็รักเพลงมากๆเหมือนกันนั่นแหละน่า  แถมรักมากกว่าด้วย"

"ไม่ใช่  เค้ารักมากกว่าต่างหาก"

"เค้ามากกว่า"

"เค้ามากกว่า"

"งั้นก็รักมากเท่ากันเนาะ"

"อืม  รักเท่ากันนะ  มันจะได้สมดุล  ไม่เอนเกินไป"

"นั่นสินะ  เพลงนี่น่ารักจังเลยนะ"

แปลกดีนะความรัก  มักจะทำให้เรามีความสุขเสมอ   ความรักที่สมดุลก็เหมือนตราชั่งที่มีน้ำหนักเท่ากันทั้งสองข้างนั่นแหละ

สู้ๆนะคนที่กำลังมีความรัก  ขอให้มีความสุขทุกๆคู่เลย  เป็นกำลังใจให้ค่ะ

อ้อ !!  เกือบลืมไป  หลังจากที่ฉันกลับจากเที่ยวทะเลวันนั้น  ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่ได้ครองตำแหน่งตั้ง  3  ตำแหน่งแน่ะ O///O

ก็จาก  2  ตำแหน่งที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว 

ก็เพิ่มมาอีกตำแหน่ง  คือ  ผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในโรงเรียน  เพราะมีแฟนน่ารักชื่อว่าเต้

ส่วนเต้ก็ไม่ได้เป็นนายวายร้ายประจำโรงเรียนอีกแล้วล่ะ

แต่เป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดแทน

น่ารักดีไหมล่ะ  แฟนของฉัน -_-

 

THE  END





บทความนี้มาจาก โรงเรียนอนุบาลคลองขลุง
http://www.anubankk.net

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.anubankk.net/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=21